- ภาครัฐ (โดยเฉพาะรัฐบาลปัจจุบัน ที่ถูกตั้งคำถามถึงความเป็นประชาธิปไตย)
- ภาคเอกชน (ที่ถูกเรียกว่านายทุน ในความหมายที่ไม่ค่อยดี)
- ภาคประชาสังคม และพลเมือง (ที่ยังโดนจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็น และโดนมองว่า ขัดขวางการพัฒนาเศรษฐกิจ)
ความจำเป็นในการพัฒนาความร่วมมือ
UN พูดถึงลักษณะของสถานการณ์ทางสังคมในศตวรรษที่ 21
- ปัญหาสังคมมีซับซ้อน และหลายมิติ
- รวยกระจุก จนกระจาย เหลื่้อมล้ำ
- ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรม
- ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และโรคใหม่ๆ
ในปัญหาที่ท้าทาย UN พบวิธีการทำงานของรัฐบาลแบบภาคส่วนเดียว ( Do it alone) ไม่น่าจะสามารถแก้ไขปัญหาความซับซ้อนได้ จึงจำเป็นที่ต้องมีภาคส่วนนอกรัฐบาล เข้ามาร่วม ในการทำงาน ซึ่ง UN ได้ประสบการณ์การทำงานจากนานาประเทศ ว่าในการผลักดันเรื่องสำคัญๆ ในการลดปัญหาสังคม ต้องมีภาคส่วนใหม่ๆ ได้แก่ ภาคประชาสังคม และภาคส่วนธุรกิจ เข้ามาเกี่ยวข้อง ๊UN ได้พบว่า หลักการที่จะทำให้แก้ไขปัญหาการพัฒนาประเทศ มีความก้าวหน้า จากความร่วมมือของหลายภาคส่วน โดยมีหลักการที่สำคัญ 3 ส่วนได้แก่
- ธรรมาภิบาล Good Governance ( ประชาธิปไตย,การต่อต่อต้านคอรัปชั่น เป็นต้น)
- การตลาดที่เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ (fair and efficient market) (การพัฒนาผลิตภัณฑ์ , นวัตกรรม,การแข่งขันที่เป็นธรรม)
- การมีส่วนร่วมของพลเมือง ( Civic Engagement) (กิจกรรมของภาคประชาสังคม , สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น , สิทธิเสรีภาพสื่อ เป็นต้น)
UN พบว่า หลังเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 และเหตุการณ์ในช่วงที่ผ่านมานำไปสู่ การปรับ วาระการพัฒนาของประชาคมโลก ในยุคศตวรรษที่ 21 ที่มีแนวโน้มการทำงานรูปแบบใหม่ ๆ ที่ต่างจากเดิม คือ
- แนวทางการทำงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย ( cooperative multi stakeholder approach)
- การทำงานในระดับนานาชาติ ระดับชาติและระดับท้องถิ่น( national and local level)
ปัจจัยที่กำหนดทิศทางของการพัฒนาความร่วมมือในการพัฒนา
- การเพิ่มขึ้นและการมีอิทธิพลขององค์กรนอกภาครัฐ ซึ่งประกอบไปด้วย
- ภาคธุรกิจ (Private sector) ,
- องค์กรภาคประชาสังคม และกลุ่มแรงงาน ,
- กลุ่มนอกกฏหมาย (uncivil society)
- ความร่วมมือเก่าและใหม่ (Cooperation old and new)
- การเข้ามามีส่วนร่วมขององค์กรนอกภาครัฐ (Contribution of non state actors)
- ประเด็นความสนใจและความสำคัญ ของการพัฒนาของประชาคมโลก
- การแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันของประชาคมโลก
การสร้างวาระร่วม (Toward Common Agenda) ๊UN พบประสบการณ์ การทำความร่วมมือเพื่อให้เกิดวาระร่วมกันระหว่างภาคส่วนเอกชน และ UN ในการดำเนินงานพัฒนา
- ผลกำไรธุรกิจและเป้าหมายสาธารณะ (private gain or public purpose)
- การกำกับดูแล หรือ อาสาสมัคร (การขอความร่วมมือ ) (regulatory or voluntary approaches)
- พื้นที่แห่งการถกเถียงหาจุดร่วม (An area of ongoing debate)
- ประเด็นสนใจที่จะสร้างวาระร่วม (key area of common agenda)
- การส่งเสริมพัฒนาภาคเอกชน เพื่อให้สามารถเปลี่ยนผ่านในภาวะเศรษฐกิจได้
- การปรับปรุงการลดผลกระทบทางสังคมของภาคธุรกิจ
- การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและศักยภาพของภาคธุรกิจในการหนุนเสริม เป้าหมายของ UN ( ในหนังสือยกตัวอย่าง ประเด็นของประชาคมโลก ที่ต้องการความร่วมมือของภาคธุรกิจ)
- การแชร์และการกระจายคุณค่าร่วมกัน ของความสำเร็จของสังคมและธุรกิจ
ศักยภาพของความร่วมมือ (Potential benefit of cooperation)
- ทรัพยากรในการขับเคลื่อนของการพัฒนา
- การสนับสนุนสำหรับคุณค่าของเป้าหมายและกิจกรรม
- การพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์สังคมใหม่ ๆ
- การเรียนรู้ร่วมกันของภาคส่วนต่างๆ (ความไว้วางใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน)
- การเข้าใจบทบาทของภาคส่วนต่างๆ มากขึ้น
- ผลประโยชน์เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจ
- โอกาสการขยายตลาด
- ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น
- ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ
- สร้างนวัตกรรม ที่สร้างสรรค์
- การพัฒนาบุคคลากร
- การเพื่มทักษะความเชี่ยวชาญ เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา
- โอกาสความร่วมมือและเป็นเครือข่ายกับภาครัฐในการพัฒนาธุรกิจ
- ***************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น