เวลาพูดถึง เด็ก ติด คอมพิวเตอร์ มือถือ และเทปเล็ต มักจะมีในสองส่วนคือ ติดเกม และติด Social Media ซึ่งทั้งสองส่วน ก็มักจะนำพาความวิตกกังวัลต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง มาเสมอ ว่าจะมีวิธีการจัดการอย่างไร
คงเริ่มต้นที่กรณี ติดเกม ก่อน
คำแนะนำของชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ในหนังสือ เรื่องการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ของเด็กและวัยรุ่น ได้แนะนำผู้ปกครอง ในการดูแลเด็ก กรณี ก่อนเล่นเกม ดังนี้
1. เนื้อหาเกม ผู้ปกครองต้องดูเนื้อหาเกมให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยของเด็ก ได้แก่
- ต่ำกว่า 3 ปี ไม่แนะนำให้เล่มเกมคอมพิวเตอร์
- 3-6 ปี เกมส่งเสริมพัฒนาการ เกมการศึกษา
- ุ6-10 ปี เกมที่ไม่รุนแรง เช่นเกมกีฬา เกมการ์ตูน ใช้ภาษาสุภาพ
- 10-13 ปี เกมต่อสู้เล็กน้อย แต่ไม่ควรมีฉากความรุนแรง
- 13 ปีขึ้นไป เกมที่อาจมีความรุุนแรงมากขึ้น มีฉากนองเลือด แต่ต้องระวังเกม ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม เช่น เรื่องเพศ ยาเสพติด คำหยาบคาย หรือ เนื้อหาที่ยุยงให้ทำผิด
2 เวลาและความรับผิดชอบ
หนังสือแนะนำให้ผู้ปกครอง กำหนดเวลา เล่นเกม ไว้ดังนี้
- 1 ชั่วโมง ในวันธรรมดา
- 2 ชั่วโมง ในวันหยุด (เล่นเกิน 2 ชั่วโมง ต่อวันในวันหยุด จะเสี่ยงต่อการติดเกม 2.5 เท่า)
- 1 ครั้ง ไม่ควรเกินชั่วโมง
- 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอนไม่ควรเล่น
3. กิจกรรมเสริม ในข้อนี้ เป็นคำแนะนำเพื่อให้เด็กให้ทำกิจกรรมอย่างอื่น บ้าง เช่น
- งานอดิเรกให้เด็กทำ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย เล่นกีฬา เล่นดนตรี
- ผลกระทบต่อกิจกรรมอื่นๆ
- ไม่ควรให้เด็กเล่นเกมขณะทำกิจกรรมอย่างอื่น เช่น ระหว่างการเดินทางบนทางสาธารณะ
4.การแนะนำเรื่องความปลอดภัย ผู้ปกครองควรแนะนำลูกถึงความปลอดภัย ในการเล่นเกม โดยเฉพาะเกมออนไลน์ ดังนี้
- การไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่นบ้านพัก เบอร์โทร เป็นต้น
- ในกรณีที่ลูกไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์นอกบ้าน ควรผู้ปกครองควรรู้จักสถานที่ และเฝ่าระวัง
- ควรติดตามเรื่องการใช้เงินในการเล่นเกมของเด็ก
5.การจำกัดการเข้าถึง การกำหนดค่าบางอย่างกับตัวเครื่อง
- วางอุปกรณ์ไว้ส่วนกลางของบ้าน (แต่สำหรับ Tablet และ สมาร์โฟน อาจจะต้องประยุกต์เอา)
- ใส่รหัสผ่านสำหรับอุปกรณ์เล่นเกม ให้เมื่อเด็กได้ทำการบ้าน หรือทำกิจกรรมที่ตกลงกันไว้เสร็จแล้ว (ที่สำคัญต้องเปลี่ยนบ่อยๆ กรณีนี้ ผู้ปกครอง ต้องมีทักษะคอมพิวเตอร์ระดับหนึ่่ง)
- ลงโปรแกรมการติดตามการใช้อินเตอร์เน็ต หรือการเล่นเกมของเด็ก
จากที่อ่านดู คำแนะนำก่อนการอนุญาตให้เล่นเกม นี้ ข้อ 1 -ข้อ 4 ผู้ปกครอง สามารถพูดคุยทำความเข้าใจกับเด็ก และอาจจะต้องไปทำความรู้จักร่านเกมในชุมชนที่เด็กไปเล่นบ้าง
ส่วนข้อที่ 5 เรื่องการจำกัดการเข้าถึง ผู้ปกครองคงต้องมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ tablet พอสมควร กรณีหลังนี้ อาจจะต้องมีพี่เลี่ยง หรือหน่วยให้คำปรึกษาให้ผู้ปกครอง ในพื้นที่และชุมชน สำหรับผู้ปกครองที่มีข้อจำกัดเรื่องความรู้ด้านไอที หรือกรณี tablet และ smart phone ผู้ประกอบการอาจจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการ ช่วยเหลือ ผู้ปกครอง เพื่อป้องกันเด็กติดเกม
พรุ่งนี้ จะมาเล่าว่า เมื่ออนูญาตให้เด็ก เล่นเกมได้แล้ว ผู้ปกครองต้องทำอะไรต่อไป
ดาวน์โหลดคู่มือได้ที่
http://www.healthygamer.net/sites/default/files/scribd/internet_edit_18-2-57.pdf